Categories
News & Activities

พินนะเคิล และดาต้าเซฟบริษัทในเครือ SCGJWD Group ร่วมมือ พร้อมลุยเดินหน้าธุรกิจร่วมกัน

วันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา CEO บริษัท พินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด คุณพงศธร หาญวรโยธิน ได้ลงพื้นที่ สำนักงานใหญ่ คลังสินค้าสุวินทวงศ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ของบริษัทชั้นนำอย่างบริษัท ดาต้าเซฟ จำกัด เพื่อดูงานระบบความปลอดภัยในการจัดเก็บเอกสาร

บริษัท พินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด ปัจจุบันมีพอร์ตหนี้มูลค่ากว่า 1,034 ล้านบาท จากการเติบโตแบบก้าวกระโดด และพร้อมเดินหน้าต่ออย่างมั่นคง บริษัท พินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด  ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลของลูกค้าทุกท่านเป็นที่สุด และได้รับความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำอย่าง บริษัท ดาต้าเซฟ จำกัด บริษัทในเครือ SCGJWD Group ซึ่งเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่เป็นผู้ให้บริการด้านการบริหารการจัดเก็บรักษาเอกสารและข้อมูลแบบครบวงจร มีการใช้เทคโนโลยีจัดเก็บอัตโนมัติ (ASRS) ในการจัดการระบบจัดเก็บเอกสาร คลังเอกสารขนาดใหญ่ผสมผสานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถจัดเก็บดูแลรักษาเอกสารได้อย่างปลอดภัย และการบริการด้านการบริหารการจัดการเอกสารและข้อมูลแบบครบวงจรให้กับทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

ระบบบริหารเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic media storage service) เป็นเทคโนโลยีใหม่ช่วยให้การปฏิบัติงานโดยการนำเอาระบบอิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดทำการเก็บรักษาข้อมูลการส่งข้อมูลการติดต่อสื่อสารในสำนักงาน ทั้งยังเป็นการลดปริมาณกระดาษ สามารถสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยการจัดเก็บเอกสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลทำให้ได้ข้อมูลที่รวดเร็วทันต่อความต้องการข้อมูลมีความถูกต้องมากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และลดเวลาในการทำงาน ระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์จัดเก็บภายในห้องที่มั่นคงแข็งแรง มีระบบความปลอดต่างๆพร้อมสมบูรณ์ เช่น ระบบดับเพลิงอัตโนมัติด้วยแก๊ส ผนังห้องกันไฟสามารถทนไฟได้ 3-4 ชั่วโมงระบบควบคุมความชื้น ระบบควบคุมอุณหภูมิตลอด 24 ชั่วโมง

การบริการของบริษัทเดต้าเซฟไม่ว่าจะเป็น บริการจัดเก็บเอกสาร (Document storage service) บริการสแกนเอกสาร (Document scanning service) สามารถช่วยให้ประหยัดเวลา และลดการใช้ทรัพยากรภายในองค์กรได้เป็นอย่างดี  โดยผลลัพธ์ของงานยังคงออกมาแบบเต็มประสิทธิภาพ และสมบูรณ์ พร้อมใช้งานสำหรับทุกแผนกในองค์กร

บริษัท พินนะเคิลเองก็ได้ใช้บริการจากบริษัท ดาต้าเซฟ ในระบบ Web Application ที่สามารถทำงานได้บนหลายระบบปฏิบัติการ เช่น Windows, Mac OSX เป็นต้น ในการจัดเก็บไฟล์เอกสารอิเลคทรอนิคส์ในองค์กร ในรูปแบบของ Cloud ทำให้สามารถใช้งานระบบ ผ่านทาง Web browser เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ และบริหารข้อมูลภายในองค์กรได้อย่างปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

และนี่คืออีกหนึ่งการแสดงจุดยืนที่สำคัญของบริษัท พินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด เพื่อก้าวสู่การเป็นหนึ่งในบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ดีที่สุดของประเทศไทย และมอบโอกาสให้กับลูกหนี้ในการช่วยพลิกฟื้นสถานะของลูกหนี้ และให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ที่ประสบปัญหาการจัดการหนี้สินในระยะยาว

ที่มา https://www.matichon.co.th/publicize/news_4017202

 

Categories
News & Activities

พินนะเคิล จัดกิจกรรม Team Building สานสัมพันธ์และสร้างเสริมความแข็งแกร่งภายในองค์กร

  

เนื่องจากบริษัท พินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ผู้บริหารงานระดับสูงจึงเน้นความสำคัญแก่บุคลากรของบริษัทด้วยการจัดกิจกรรม Team Building ยุคใหม่ ภายใต้แนวคิดสร้างสรรค์กิจกรรมสร้างความสุข เพื่อแก้ปัญหาการสื่อสารภายในองค์กรและเพิ่มทัศนคติเชิงบวก Growth mindset จัดขึ้นโดยทีมงานวิทยากรเฉพาะด้าน การจัดอบรมองค์กร บริษัท SMART TEAM BUILDING วันที่ 26-27 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ บัฟฟาโล่ ไอแลนด์ รีสอร์ท Buffalo Island Resort อำเภอ หางดง จังหวัด เชียงใหม่ 

   

   

ในโลกปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วองค์ความรู้หลายอย่างก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปตามกันตลอดจนการแข่งขันของบริษัทต่างๆก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆฉะนั้นการฝึกอบรมพัฒนาบุคคลากรจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะแต่ละองค์กรต่างก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ 

               วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม
เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้พื้นฐานจนไปถึงองค์ความรู้ใหม่ๆให้กับพนักงาน ให้ได้รับประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและองค์กรให้มีประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้นเพื่อปรับระบบการทำงานขององค์กรให้มีทิศทางเดียวกันเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรในการแข่งขันกับบุคคลอื่นๆร่วมไปถึงบริษัทคู่แข่งและช่วยลดต้นทุนในการประกอบการให้มากที่สุด 

                 ประโยชน์ของการฝึกอบรม
        บุคลากรสามารถพัฒนาขีดความสามารถของตนเองและสร้างสรรค์ผลสำเร็จเพื่อให้บรรลุเป้าหมายรวมกันได้ง่ายขึ้น  องค์กรมีทิศทางการทำงานที่ชัดเจนและไปในทางเดียวกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน แบ่งปันองค์ความรู้ใหม่ๆที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์กรและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น สามารถช่วยลดต้นทุนในการประกอบการ เนื่องจากพนักงานมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา 

        สิ่งที่ควรทำให้เกิดในการจัดกิจกรรมสร้างทีม คือ ความรู้สึกอยากผสานความร่วมมือ ใช้การแข่งขันเป็นแรงเสริมให้เกิดการพัฒนาตนเอง การถ่ายทอดทักษะความสามารถของแต่ละคน ไม่รู้สึกผิดเมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น แต่ร่วมกันยอมรับผล และพร้อมที่จะแก้ไขข้อผิดพลาด สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้เกิดขึ้น แต่ถ้ากระบวนการกิจกรรมสร้าง”ประสบการณ์” ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเห็นผลซึ่งเกิดจากพฤติกรรมที่แสดงออกมาในกิจกรรมแล้ว ย่อมนำไปสู่ความต้องการเปลี่ยนแปลงและขจัดพฤติกรรมที่ไม่ดีออกไป กิจกรรมก็จะกลายเป็นเครื่องมือทรงประสิทธิภาพในการสะท้อนตัวตนเพื่อการทำงานร่วมกับผู้อื่น 

           การมองหาวิธีสร้างองค์กรแห่งความสุข วิธีทำงานเพื่อสร้างสุข สิ่งที่ต้องเริ่มคือ การสร้างรอยยิ้มและความสุขจากความร่วมมือระหว่างกัน และแน่นอนกิจกรรมที่ดีที่สุดในการสร้างองค์กรเช่นนี้ ก็ต้องใช้เสียงหัวเราะ และความสนุกเป็นพลังในการขับเคลื่อนนั่นเอง 

พินนะเคิลจึงมีนโยบายในการจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อร่วมสร้างกิจกรรมยุคใหม่ ที่อุดมไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความสุข และสาระประโยชน์ด้วยกัน” 

 

กุญแจสำคัญของการทำกิจกรรม  

เพื่อสร้างทีมสัมพันธ์ที่ดี (Good Team Building) สร้างความสามัคคีในการทำงานร่วมกัน 

1.Task Achievement คือ การปฎิบัติภาระกิจให้สำเร็จลุล่วง 

2.Accuracy and Quality of Decisions คือ การตัดสินใจที่ถูกต้องและมีคุณภาพ  

3.Risk Taking คือ การเผชิญกับความเสี่ยงต่างๆ 

4.Motivation คือ การสร้างแรงจูงใจที่ดี เกิดกำลังใจในการทำภารกิจต่างๆ 

5.Speed of Learning คือ การเรียนรู้ได้ไว ประมวลผลแบบรวดเร็ว 

Categories
News & Activities

PAM ยกระดับองค์กร สู่องค์กรดิจิทัล พร้อมเป็นผู้นำด้านการบริหารและการเงินอย่างยั่งยืนและครบวงจร

วันที่ 4 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา คุณธนาชัย วงศ์บุญชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายไอทีและปฏิบัติการ เป็นตัวแทน บริษัท พินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด(PAM) ไปร่วมงาน AWS ASEAN ExecLeaders 2023 ซึ่งเป็นงานสัมมนาสำหรับผู้บริหารด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคอาเซียน AWS ASEAN Executives Marina Bay Sands Expo & Convention Centre ประเทศสิงคโปร์ โดยงานที่จัดขึ้นได้รวบรวมผู้นำธุรกิจ นวัตกรรมและเทคโนโลยีจากทุกประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีในองค์กรยุคดิจิทัล ขยายเครือข่ายและพบปะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และต่อยอดทางธุรกิจกับบริษัทพันธมิตร เพื่อพัฒนาและยกระดับองค์กรให้ก้าวไปสู่การเป็นที่สุดในวงการธุรกิจในปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพ 

จุดมุ่งหมายหลักของการสัมมนาครั้งนี้คือ การก้าวข้ามขีดจำกัดเพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน Breaking Barriers for Sustainable Growth มีผู้บริหารระดับชั้นนำขององค์กรดิจิทัลต่างๆ อาทิ เช่น DBS Bank, OCBC Bank, Maybank, Singtel, Accenture มาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยขับเคลื่อนให้องค์กรก้าวไปสู่โลกแห่งอนาคตได้อย่างทรงพลัง Future-Ready                                                        

บริษัท พินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด ให้ความสำคัญและมีแนวคิดในปรับกระบวนการดำเนินงานเพื่อสร้างความพร้อมสำหรับอนาคต โดยให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลักคือ Digital Transformation, Sustainability และ Cybersecurity Culture เพื่อยกระดับองค์กรไปสู่การดำเนินงานโดยใช้เทคโนโลยีระดับโลก จึงถือเป็นอีกหนึ่ง Game Changer ที่เป็นแนวทางให้กลุ่มธุรกิจของ Pinnacle ขยาย และเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพื่อเป็นผู้นำด้านการบริการการเงินครบวงจร และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่แข็งแกร่งต่อไป 

แหล่งข่าวอ้างอิง : prachachat.net

Categories
News & Activities

หนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง หวังพรรคการเมืองชูนโยบายแก้หนี้แบบตรงกลุ่มเป้าหมาย

หนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง หวังพรรคการเมืองชูนโยบายแก้หนี้แบบตรงกลุ่มเป้าหมาย

ภาพรวมหนี้ครัวเรือนของไทยขณะนี้อยู่ที่ 15 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 87% ของจีดีพี เกินระยะอันตรายของหนี้ครัวเรือนคือ 85% แล้ว ขณะที่ เป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยต้องการให้หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับ 80% ของจีดีพี

หนี้ในระบบเครดิตบูโรอยู่ที่ 13 ล้านล้านบาท ในจำนวน 32 ล้านคน และพบว่า  9.8 แสนล้านบาท “เป็นหนี้ที่เสีย”

บางคนโดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ภาคบริการต่างๆ ก่อนช่วงโควิด-19 ที่ภาคการท่องเที่ยวเติบโตลูกหนี้กลุ่มนี้อยู่ในระดับเกรดเอ แต่ ณ วันนี้ กลับติดกับดักหนี้เสีย คือกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด โดย มีอยู่ราว 3.1 ล้านคน มูลค่าหนี้กว่า 3.3 แสนล้านบาท

เข้าใจนโยบาย “พักหนี้” แต่ควรดูให้รอบด้าน

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่เครดิตบูโร ขยายความคำว่า “พักหนี้”  หรือ “พักการชำระหนี้” คือ เมื่อหนีถึงกำหนดแต่ยังไม่ต้องจ่าย ก็ไม่ถือว่ามีความผิด แต่เมื่อพักแล้ว เจ้าหนี้จะจัดการกับก้อนหนี้อย่างไร ดอกเบี้ยจะเป็นอย่างไร ตรงนี้ต้องวางมาตรการให้ชัดเจนและมีความประณีต หรือกรณีที่ แช่แข็งหนี้ โดยที่หยุดดอกเบี้ยไว้ แล้วในส่วนของดอกเบี้ยเงินฝากต้องคำนึงถึงฝั่งผู้ฝากเงินด้วย

กาง Big DATA เครดิตบูโร  เกี่ยวกับการจับจ่ายใช้สอย ของคนไทย

จำนวนผู้ที่อยู่ในระบบเครดิตบูโรมีจำนวน 32 ล้านคน กับอีก  4 แสนบริษัท มูลค่าราว 7-8 ล้านล้านบาท คลอบคลุม 126 สถาบันการเงิน เช่าซื้อ นาโนไฟแนนซ์ พิโกไฟแนนซ์ ซึ่งพบว่า

  • กลุ่มเจน z (อายุ 20-22 ปี) มียอดหนี้ 1.8 แสนล้านบาท เป็นหนี้เสียแล้ว 1.1 หมื่นล้านบาท
  • กลุ่มเจน X มียอดหนี้ 5.6 ล้านล้านบาท เป็นหนี้เสียแล้ว 3.4 แสนล้านบาท
  • กลุ่มเจน Y กู้ มียอดหนี้ 4.1 ล้านล้านบาท เป็นหนี้เสียแล้ว 2.7 แสนล้านบาท
  • กลุ่มเบบี้บูมเมอร์ มียอดหนี้ 1.3 ล้านล้าน เป็นหนี้เสียแล้ว 9 หมื่นล้าน

Categories
News & Activities

ภาษีความหวาน คืออะไร?

ภาษีความหวาน คืออะไร?

ภาษีความหวาน กลไกสร้างสุขภาพคนไทยด้วยมาตรการภาษี ได้เดินหน้าเข้าสู่ระยะที่ 3 ในวันที่ 1 เม.ย.2566 ตามแนวทางปรับโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่ใน พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ส่วนเครื่องดื่มหรือผลิตภัณฑ์ที่ให้ความหวานตัวใดต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นบ้าง ?

 

อัตราภาษีเครื่องดื่มรสหวาน

อัตราภาษีความหวานคํานวณจากปริมาณน้ําตาลต่อ 100 มิลลิลิตร โดยอัตราภาษีความหวานของเครื่องดื่มที่กรมสรรพสามิตใช้จะแบ่งเป็น 4 ระยะ ซึ่งค่อย ๆ เพิ่มอัตราภาษีในแต่ละระยะ เพื่อให้ เวลาผู้ประกอบ การที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มรสหวานได้ปรับตัว

โดยปัจจุบันเราอยู่นะระยะที่ 3 (ระหว่าง 1 เมษายน 2566 – 30 กันยายน 2567) อัตราภาษีความหวาน มีรายละเอียดดังนี้

  • ต่ำกว่า 6 กรัม ไม่ต้องเสียภาษี
  • 6-8 กรัม เสียภาษี 0.3 บาทต่อลิตร
  • 8-10 กรัม เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร
  • 10-14 กรัม เสียภาษี 3 บาทต่อลิตร
  • 14-18 กรัม เสียภาษี 5 บาทต่อลิตร

ระยะที่ 4 เริ่มใช้ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป มีอัตราภาษีความหวาน ดังนี้:

  • ต่ำกว่าว่า 6 กรัม ไม่ต้องเสียภาษี
  • 6-8 กรัม เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร
  • 8-10 กรัม เสียภาษี 3 บาทต่อลิตร
  • 10-14 กรัม เสียภาษี 5 บาทต่อลิตร

ภาษีความหวานจะมีการปรับขึ้นเป็นอัตราก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ ทุก ๆ 2 ปี ซึ่งระยะที่ 3 จะมีผล 1 เมษายนนี้แล้ว ถ้าผู้ประกอบการไม่ปรับตัวในการผลิต โดยลดความหวานลงจะเสียภาษีเพิ่มขึ้น เช่น เครื่องดื่มที่มีสารความหวาน 10-14 กรัมต่อลิตร จะเสียภาษีเพิ่มจาก 1 บาท เป็น 3 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ผลิตทยอยลดปริมาณน้ำตาลลงแล้ว ซึ่งจะไม่ทำให้มีภาระภาษีเพิ่มแต่อย่างใด

 

แหล่งที่มา prachachat.net

Categories
News & Activities

PAM ลุยซื้อหนี้เติมพอร์ต เซ็นสัญญาซื้อขายพอร์ต BMW และพอร์ตโอริโค่ ลีสซิ่ง

PAM ลุยซื้อหนี้เติมพอร์ต เซ็นสัญญาซื้อขายพอร์ต BMW และพอร์ตโอริโค่ ลีสซิ่ง  สวนกะแสธุรกิจขาลงช่วงโควิด-19 คอนเฟิร์มพื้นฐานแกร่งไม่เปลี่ยน เข้าสู่การเติบโตสูงแบบก้าวกระโดด ด้วยเงินทุนที่พร้อม

หลังจากที่ได้เปิดตัวบริษัทใหม่ HYFIRST และ PINNACLE ASSET HOLDING พินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้ให้บริการธุรกิจการเงินครบวงจร เพื่อเตรียมการณ์ก้าวเข้าสู่การเป็น NON-BANK ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ PAM มองการเติบโตในช่วง ไตรมาสแรกปี 2566 ดีต่อเนื่อง ยอดจัดเก็บพุ่งขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ชี้จับตาครึ่งปีหลัง 2566 โดดเด่นกว่าเดิม

คุณ  พงศธร หาญวรโยธิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ PAM เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่1 ปี2566ที่ผ่านมา ยอดจัดเก็บหนี้ (Cash Collection) มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน อีกทั้งลูกหนี้ส่วนใหญ่ที่มีการฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจในช่วงปีที่ผ่านมา จึงมีการชำระหนี้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ หากว่ามีมูลหนี้ก้อนใหม่มีความน่าสนใจและราคามีความเหมาะสม บริษัทก็มีความพร้อมที่จะลงทุนเพิ่มในปีนี้

หลังจากวันที่ 7 เมษายน 2566 ได้เซ็นสัญญาซื้อขายพอร์ตหนี้ จากบริษัท BMW และ Orico Auto Leasing (Thailand) Ltd. ในวันที่ 30 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เผยหลังจากนี้ยังจะมีการซื้อขายพอร์ตหนี้เพิ่มอีกประมาณ 4 พอร์ตก่อนจะปิดงบการลงทุนในไตรมาสสอง ส่วนการจัดซื้อหนี้ด้อยคุณภาพใหม่เข้ามาในพอร์ตเพิ่มเติมนั้น ปัจจุบันเริ่มมี TOR จากทางสถาบันการเงินทยอยออกมาบ้างแล้วแต่ปริมาณอาจไม่หวือหวานัก และจะมีหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) มากขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาส 3 และ 4 เป็นต้นไป เพราะเข้าไฮซีซันของธุรกิจ ทั้งนี้ในปี 2566 บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่กว่า 600ล้านบาท เพื่อรองรับการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพใหม่ทั้งแบบที่มีหลักประกันและโดยเฉพาะแบบไม่มีหลักประกันเข้ามาบริหารในพอร์ตเพิ่มเติม โดยมูลค่าพอร์ตหนี้ที่บริษัทถือครอง ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 1,370 ล้านบาท จำนวนลูกหนี้ 4,850 ราย ภายหลังจากเริ่มดำเนินกิจการเพียงไม่ถึงหนึ่งปี

ขณะที่อัตราการเจริญเติบโตของบริษัทลูก 2 บริษัทคือ บริษัท HYFIRST และ PINNACLE ASSET HOLDING คาดเห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป นอกจากนี้บริษัทก็มีความสนใจและมองหาโอกาสในการหา Synergy ใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ จากปัจจัยที่กล่าวมาเชื่อว่าจะเข้ามาช่วยหนุนให้ผลงานในปี 2566 เติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ไม่น้อยกว่าปีก่อน

*ควักงบช็อปหนี้เพิ่ม

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนทุ่มเงินลงทุนในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากเดิมเพื่อรองรับการจัดซื้อเอ็นพีแอลเข้ามาเสริมพอร์ตบริหารหนี้ให้ขยายตัวมากขึ้น หลังมองทิศทางสถาบันการเงินและธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) มีแนวโน้มจะทยอยจำหน่าย NPLs ออกมาเป็นจำนวน ซึ่งถือเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตของของบริษัทในระยะยาวเพิ่มเติม

เด่นสุดกลุ่ม AMC

อีกทั้งธุรกิจมีความมั่นคง ดำรงตำแหน่งบริษัทที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มธุรกิจประเภทเดียวกัน ในภาคเหนือ ซึ่งจะยิ่งเห็นภาพชัดเจนขึ้นหลังจากการทำสัญญาซื้อขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ จากสถาบันการเงินระดับประเทศ และสถาบันการเงินอื่นๆ

อีกทั้งในปี 2023 นี้ Pinnacle Asset Management มีแนวคิดการบริหาร และนโยบายที่จะพัฒนาด้านเทคโนโลยีของกลุ่มบริษัทภายใต้การนำของคุณพงศธร CEO ของเรา โดยให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลักคือ Digital Transformation, Sustainability และ Cybersecurity Culture ทั้ง 3 ส่วนหลักนี้จะเป็นนโยบาย และแนวทางให้กลุ่มธุรกิจของ Pinnacle ขยาย และเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพื่อเป็นผู้นำด้านการบริการการเงินครบวงจร และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่แข็งแกร่งต่อไป

Categories
News & Activities

วิกฤติอสังหาฯ จีน (Chinese Property Crisis)

วิกฤติอสังหาฯ จีน (Chinese Property Crisis) เกิดขึ้นจากการเจริญเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน ทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนมีการกู้ยืมเงินอย่างมากมายเพื่อลงทุนในโครงการต่าง ๆ ซึ่งทำให้มีหนี้สินสะสมสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มนโยบายกำกับการกู้ยืมเงินและการควบคุมราคาที่ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ล้มเหลว และบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บางแห่งล้มละลายลงเกิดความไม่มั่นคงในตลาดทรัพย์สินและทรัพย์สินต่าง ๆ ในประเทศจีน และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมากมาย โดยเฉพาะในตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียและยุโรป โดยวิกฤตนี้เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2564-2565 (2021-2022)

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ได้รายงานว่าผู้ปล่อยสินเชื่อทั่วโลก (Global Creditors) กำลังเผชิญกับปัญหาที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนไม่สามารถที่จะชำระหนี้ได้ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ เพราะขาดสภาพคล่องที่เกิดปัญหาขึ้นจากภาคอสังหาริมทรัพย์มานานถึง 3ปีติดต่อกันจากวิกฤติโควิด-19

สำหรับผู้ปล่อยกู้ที่ไม่ได้รับเงินคืนเรียกร้องให้ผู้ผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรรับผิดชอบกรณีดังกล่าว แต่เนื่องด้วย “กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้” (Debt Restructuring Processes) ที่ยาวนานและ “การฟ้องร้องดำเนินคดี” เป็นไปได้ยากที่จะเกิดผลสำเร็จ ขณะที่ผู้เสียหายส่วนใหญ่ยื่นคำร้องขอให้ปิดกิจการ (Winding-up Petitions) ซึ่งท้ายที่สุดอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องให้เกิดการขายกิจการเหล่านั้นด้วยราคาแบบลดกระหน่ำ และมีส่วนน้อยไม่กี่ที่รายแจ้งความจำนงให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาดำเนินการกรณีดังกล่าวตามขั้นตอนของทางการ

แม้จะมีความคืบหน้าเกี่ยวกับข้อเสนอการปรับปรุงหนี้ (Debt Revamp Proposals) บ้าง ทว่า “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป” (China Evergrande Group) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน แสดงความกังวลว่า บรรดานักลงทุนอาจต้องรออีกหลายปีกว่าจะได้รับเงินคืน

ข้อมูลที่รวบรวมโดยบลูมเบิร์กระบุว่า การค้างชำระหนี้พันธบัตรของภาคเอกชน (Corporate Delinquency) ในจีนปี 2565 รวมอยู่ที่ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.53 ล้านล้านบาท) ซึ่งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผิดนัดชําระหนี้พันธบัตรมากกว่า 140 รายการ มูลค่ารวมทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.65 ล้านล้านบาท) ตามมูลค่าพันธบัตรที่ปล่อยออกไปทั้งหมดในปีเดียวกัน

หนึ่งในทางแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ คือไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปอาจต้องสลับพันธบัตรชนิดเก่ากับพันธบัตรชนิดใหม่พร้อมยืดวันหมดอายุสินทรัพย์ให้ยาวกว่าเดิมเป็น 12 ปี

 

แหล่งอ้างอิง (bangkokbiznews.com)

 

 

Categories
News & Activities

คำนวณค่าโอนที่ดิน ค่าจดจำนอง ปี2566

การซื้อขายที่ดินหรือที่พักอาศัย นอกจากมูลค่าที่อสังหาริมทรัพย์ที่ต้องจ่ายแล้ว ก็ยังมีค่าใช้จ่ายหลัก ๆ มาด้วย ก็คือ ค่าใช้จ่ายในการโอน ทั้งโอนบ้าน โอนที่ดิน มาดูกันว่าเราต้องเสียค่าอะไรบ้าง ค่าโอนที่ดิน ค่าจดจำนอง ต้องเสียเท่าไหร่ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

ค่าใช้จ่ายในการโอนอสังหาริมทรัพย์

ในการซื้อขายบ้านและที่ดิน จะมีค่าใช้จ่ายในการโอนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เราต้องเสียให้กับสำนักงานที่ดิน ดังนี้

-ค่าคำขอโอนที่ดิน 5 บาท

-ค่าอากร 5 บาท

-ค่าพยาน 20 บาท

-ค่าธรรมเนียมในการโอน

-ค่าจดจำนอง

-ค่าอากรแสตมป์

-ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ

-ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ค่าธรรมเนียมในการโอน หรือ ค่าโอนที่ดิน

คิดเป็น 2% ของราคาประเมินหรือราคาขาย แต่ในปี 2566 ครม. มี มติปรับลดค่าธรรมเนียมจาก 2% เป็น 1% เพื่อกระตุ้นให้มีการซื้อ-ขายอสังหาฯ มากขึ้น และสนับสนุนให้ประชาชน มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมีเงื่อนไขคือ

  1. เฉพาะการซื้อ-ขายที่อยู่อาศัย ทั้งมือหนึ่งและมือสอง ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝดบ้านแถว อาคารพาณิชย์ ห้องชุด
  2. ราคาซื้อ-ขาย ราคาประเมินทุนทรัพย์ และวงเงินจำนองต้องไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อสัญญา ไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน
  3. ต้องโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน จึงจะได้ลดค่าธรรมเนียมการจำนองด้วย
  4. ต้องโอนและจดจำนองภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2566
  5. ผู้ซื้อต้องเป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย
ค่าจดจำนอง

กรณีซื้อบ้านหรือที่ดินโดยใช้สินเชื่อธนาคารหรือกู้เงินจะเสียค่าจดจำนองด้วย ซึ่งปกติคิด 1% ของมูลค่าจำนอง แต่ปี 2566 ได้ปรับลดลงเหลือ 0.01% ตามเงื่อนไข (หากใครซื้อบ้านด้วยเงินสดจะไม่เสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้)

  1. เฉพาะการซื้อ-ขายที่อยู่อาศัย ทั้งมือหนึ่งและมือสอง ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ ห้องชุด
  2. ราคาซื้อ-ขาย ราคาประเมินทุนทรัพย์ และวงเงินจำนองต้องไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อสัญญา ไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน
  3. ต้องโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน จึงจะได้ลดค่าธรรมเนียมการจำนองด้วย
  4. ต้องโอนและจดจำนองภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2566
  5. ผู้ซื้อต้องเป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย

แต่ถ้ามูลค่าการซื้อ-ขายมากกว่า 3 ล้านบาท ค่าจดจำนองยังคงคิด 1% ตามเดิม

อ้างอิง : MONEY BUFFALO

Categories
News & Activities

อัปเดตดอกเบี้ย รีไฟแนนซ์บ้าน ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ปี2566 (ล่าสุด)

รีไฟแนนซ์ (Refinance) คืออะไร

คือ การกู้เงินก้อนใหม่เพื่อไปชำระคืนกับเจ้าหนี้เดิม โดยเงินกู้ก้อนใหม่นั้นมักจะมีเงื่อนไขให้การกู้ยืมที่ดีมากกว่าข้อดีของการ “รีไฟแนนซ์” คือ จะช่วยให้เราผ่อนบ้านได้หมดเร็วขึ้น ถ้าเราจ่ายค่างวดเท่าเดิมแต่จ่ายส่วนที่เป็นดอกเบี้ยน้อยลง เราก็จะลดเงินต้นได้เร็วมากขึ้น หรือบางคนที่ผ่อนบ้านไปแล้วเกิดปัญหา เงินติดขัด หมุนไม่ทัน ก็สามารถ “รีไฟแนนซ์” เพื่อขอลดค่างวดที่ต้องจ่ายต่อเดือนลงหรือเป็นการยืดระยะเวลาในการผ่อนให้นานขึ้นได้

รีเทนชั่น (Retention) คืออะไร

คือ การขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับธนาคารเดิม ซึ่งเราสามารถเดินเข้าไปเจรจากับทางธนาคารหรือสถาบันการเงินว่าขอลดดอกเบี้ยได้ ซึ่งการทำ “Retention” อาจจะไม่ได้อัตราดอกเบี้ยที่น่าดึงดูดเท่ากับเราไปขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ แต่การทำ Retention จะช่วยลดความยุ่งยากและไม่ต้องมาคำนวณเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย รวมไปถึงใช้เวลาเพียง 7 วันเท่านั้น ในการขออนุมัติ ถึงจะรู้ผล เร็วกว่าการขอรีไฟแนนซ์อย่างมาก เพราะไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจสอบเอกสาร ตรวจสอบประวัติผู้กู้ เนื่องจากธนาคารเดิมมีข้อมูลของเราอยู่แล้ว

อ้างอิง : MONEY BUFFALO 

Categories
News & Activities

พินนะเคิลเปิดตัวบริษัทใหม่อย่าง HYFIRST และ PINNACLE ASSET HOLDING ผู้ให้บริการธุรกิจการเงินครบวงจร

พินนะเคิลเปิดตัวบริษัทใหม่อย่าง HYFIRST และ PINNACLE ASSET HOLDING ผู้ให้บริการธุรกิจการเงินครบวงจร เตรียมก้าวเข้าสู่การเป็น NON-BANK ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ

นำโดย คุณพงศธร หาญวรโยธิน ผู้บริหารพินนะเคิล กล่าวว่าทั้ง 2 บริษัทอย่าง HYFIRST COMPANY LIMITED. และ PINNACLE ASSET HOLDING COMPANY LIMITED. อยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งและเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทั้งยังมีนโยบายในการจัดตั้งสาขาใหม่และร่วมทุนในธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ ธุรกิจติดตามทวงถาม ธุรกิจด้านเทคโนโลยี และธุรกิจลานประมูล หวังสร้างเครือข่ายธุรกิจที่ครอบคลุมการบริการอย่างครบวงจรที่เรียกว่า ระบบนิเวศทางธุรกิจ (ECOSYSTEM BUSINESS MODEL)

ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญ ในการเสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ทั้งทางธุรกิจและทางเทคนิคเพื่อสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว เพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจบริหารสินทรัพย์ในประเทศไทย ทั้งนี้บริษัทได้วางงบประมาณเพื่อขยายธุรกิจ และควบรวมกิจการไว้กว่า 400 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทพินนะเคิลได้คาดการณ์ว่าภายในปี 2566  ทางสถาบันการเงินทั้ง BANK และ NON – BANK จะมีการทยอยขายหนี้ออกมาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้จึงตั้งงบประมาณในการลงทุนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าเจรจา และร่วมการประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ กว่า 600 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายขยายขนาดการถือครองพอร์ตหนี้ รวมถึงเร่งตัวเลขการเติบโตของรายได้เพื่อก้าวขึ้นเป็นบริษัทบริหารหนี้เสียระดับประเทศตามเป้าหมายที่วางไว้ภายในปี 2567

Website: https://pinnacle-amc.co.th/
Facebook Page: https://www.facebook.com/pinnacle.amc/
Line official: @pinnacleamc